5 ข้อที่ผู้ชายต้องการ
1. ผู้หญิงคนนั้นต้องเก่งงานบ้าน
2. ผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นที่ปรึกษาได้ทุกเรื่อง
3. ผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นได้ทุกอย่าง
4. ผู้หญิงคนนั้นต้องเก่งเรื่องบนเตียง
5. ผู้หญิงทั้ง 4 คนต้องไม่รู้จักกัน
.........ขำ ขำ..............
จาก forward Mail "จากเพื่อนส่งเมล์มาให้"
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
4 ความคิดเห็น:
FW: อุบลภัณฑ์ … ไหนวะ ! (ขำขำ)
> โมด : ฮัลโหล …
> ชาติ : กูชาตินะ … ไอ้โมด กูจะเข้ากรุงเทพ มีธุระนิดหน่อย …
> โมด : เฮ้ย … จริงดิ มึงจะมาเมื่อไหร่วะ
> ชาติ : วันศุกร์ มึงว่างมั้ยเนี่ย
> โมด : เฮ้ย … มึงมา กูไม่ว่าง ก็ชาเย็น เต็มที
> ชาติ : แหม ชาเย็น ไอ้สลัด
>
> โมด : สยามแล้วกัน มึงยังจำทางในกรุงเทพได้นะ
> ชาติ : ดูถูก ไอ้เวร สามสี่ปีเอง แม่_จะเปลี่ยนอะไรนักหนา
> โมด : เออ เออ สยาม นะโว้ย 5 โมงครึ่ง
> ชาติ : เออ … แล้วเจอกัน แค่นี่ล่ะ
> โมด : แค่นี้นะ … บาย
> .
> (สยามฯ - วันศุกร์ - 5 โมงสิบห้า)
>
> โมด : ฮัลโล มึงอยู่ไหนแล้ว
> ชาต ิ : ยืนรอมึงอยู่ หน้าตึกใหญ่ๆ
> โมด : ไอ้เวร หน้าร้านอะไร เดี๋ยวกูไปหามึงเอง
> ชาติ : เออ … อุบลภัณฑ์
>
> โมด : (งง) … มีด้วยเหรอวะ ร้านนี้ สยามนะโว้ย
> ชาติ : เออ … ป้ายเหลืองๆ คนเต็มเลย
> โมด : นึกไม่ออกจริงๆ ว่ะ … อุบลภัณฑ์ เนี่ยนะ
> ชาติ : …
> โมด : มึงเห็น แมคฯ แถวนั้นมั้ย
> ชาติ : เห็น … กูเดินไปหามึงตรงนั้นแล้วกัน หน้าร้านนะโว้ย
> โมด : เออ เออ
>
> (หน้าร้านแมคฯ)
>
> โมด : เฮ้ย … มีด้วยเหรอวะ อุบลภัณฑ์ … กูว่ากูเชี่ยวนะ แถวนี้
> ชาติ : (ชี้ให้ดู) โน่น โน่น … แหกตาดู ป้ายเหลืองๆ โน่น
> โมด : …
>
> ชาติ : อึ้งสิมึง แหมๆ … เชี่ยวมาก ไอ้สลัด
> โมด : ไอ้ชาติ …. เอ้ย … โอปองแปง โว้ย โอปองแปง (au bon pain)
> ชาติ : มึงอ่านไงวะ โอปองแปง … แม่_ อุบลภัณฑ์ ชัดๆ
> โมด : …?? !!##??
Fw:ไม่ใช่แค่ไอคิว ... สงครามระหว่างเพศ เหตุจากสมอง
ทำไมผู้ชายคุยไปดูทีวีไปไม่ได้
ผู้หญิงถนัดนักเรื่องการทำหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน อาทิ เขียนรายการของที่จะซื้อพร้อมกับทำกับข้าวและบอกสามีให้ดูลูกทำการบ้าน การสแกนสมองบ่งบอกว่า สมองผู้หญิงไม่เคยว่างเปล่าแม้ยามหลับ ในทางตรงข้าม ผู้ชายมักพบว่าเวลาถูกขอให้โทรศัพท์ระหว่างดูทีวีเป็นภารกิจที่ท้าทายอย่างยิ่ง
นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า สมองซีกซ้ายและขวาของคนเราเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันด้วยกลุ่มเส้นประสาทที่เรียกว่า corpus callosum
โรเจอร์ กอร์สกี้ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในแอลเอ ยืนยันว่าสมองของผู้หญิงมี corpus callosum หนากว่าผู้ชาย 10% และมีการเชื่อมต่อระหว่างสมองสองซีกมากกว่าผู้ชาย 30% ทั้งยังพิสูจน์ได้ว่า หญิง-ชายใช้สมองคนละส่วนกันเวลาทำงานอย่างเดียวกัน
สมองของผู้ชายพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้มุ่งเน้นกับงานเพียงงานเดียว ขณะที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนของเพศหญิงกระตุ้นเซลล์สมองให้ทำการเชื่อมต่อสมองซีกซ้ายและขวามากขึ้น
ผลศึกษาหลายชิ้นระบุว่า ยิ่งสมองสองด้านเชื่อมต่อกันมากแค่ไหน คนนั้นยิ่งมีความเป็นเลิศด้านภาษามากขึ้น และยังอธิบายได้ว่า เหตุใดผู้หญิงจึงสามารถปฏิบัติภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยหลาย ๆ อย่างพร้อมกันได้
ด้วยเหตุนี้ เวลาที่ผู้หญิงจะขอให้สามีทำอะไรให้ ควรเลือกจังหวะให้ดีและมอบหมายภารกิจให้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ทำไมผู้ชายโกหกไม่สำเร็จ
การศึกษาภาษากายพบว่า ในการสื่อสารแบบเผชิญหน้า สัญญาณที่ไม่ใช่คำพูดมีอิทธิพลต่อผลลัพธ์ของสาส์นถึง 60% อีก 30% เป็นหน้าที่ของน้ำเสียง และ 10% ที่เหลือถึงเป็นถ้อยคำ
ผู้หญิงมีทักษะในการเลือกสรรและวิเคราะห์ข้อมูลนี้มากกว่าผู้ชาย โดยสมองสองซีกจะส่งผ่านข้อมูลระหว่างกันอย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถรวบรวมและถอดรหัสถ้อยคำ ภาพที่เห็น และสัญญาณอื่น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ และนี่คือคำอธิบายว่า เหตุใดผู้ชายจึงโกหกผู้หญิงซึ่งหน้าไม่สำเร็จ แต่ผู้หญิงกลับทำพฤติกรรมแบบเดียวกันนี้ได้ง่ายดายและเนียนเหลือเกิน
ข้อแนะนำสำหรับเรื่องนี้ก็คือ ถ้าคิดจะตุกติก หนุ่มควรใช้วิธีโทรศัพท์ ส่งจดหมาย ปิดไฟ หรือคลุมโปงคุยกับแฟนมากกว่า
ทำไมผู้หญิงมีปัญหาเวลาจอดรถขนานฟุตบาต
งานวิจัยที่มีบริษัทสอนขับรถเป็นสปอนเซอร์แสดงให้เห็นว่า ผู้ชายอังกฤษมีความแม่นยำ 82% ในการถอยรถคนอื่นเข้าจอดขนานกับขอบถนน และ 71% ทำได้ตั้งแต่ครั้งแรก ขณะที่ผู้หญิงได้คะแนนเพียง 22% และ 23% ตามลำดับ ทั้งที่เวลาสอบใบขับขี่ผู้หญิงจะได้คะแนนในส่วนนี้ดีกว่าผู้ชาย
สาเหตุเป็นเพราะผู้หญิงเก่งกว่าผู้ชายในการเรียนรู้ภารกิจและทำซ้ำภายใต้สภาพแวดล้อมและเงื่อนไขที่เหมือนเดิม ทว่า ในสถานการณ์จริงที่การจราจรหมายถึงชุดข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ประสิทธิภาพของผู้หญิงจึงด้อยลง ขณะที่ผู้ชายมีทักษะด้านมิติสัมพันธ์สูงกว่าซึ่งเหมาะสมต่อภารกิจนี้ รวมถึงการจดจำแผนที่ในหัวและรู้ว่าต้องเลือกเส้นทางไหน
ถ้าต้องกลับไปที่เดิม ผู้ชายไม่จำเป็นต้องพึ่งแผนที่ เพราะพื้นที่สมองส่วนมิติสัมพันธ์จะบันทึกข้อมูลไว้ครบถ้วน ด้วยเหตุนี้ผู้ชายจึงลุกจากที่นั่งบนอัฒจรรย์เพื่อลงไปซื้อเครื่องดื่มและกลับมาโดยไม่หลง ขณะที่เรามักคุ้นตากับภาพนักท่องเที่ยวหญิงยืนทำหน้างงใส่แผนที่ตามสี่แยก
ทำไมผู้หญิงใส่ใจความรู้สึก-ผู้ชายหมกมุ่นกับงาน
ผู้ชายมักตีค่าตัวเองจากหน้าที่การงานและความสำเร็จ ขณะที่ผู้หญิงมองตัวเองมีค่าโดยพิจารณาจากความสัมพันธ์กับคู่ครอง
ในอดีตกาล ผู้ชายเป็นผู้หาอาหารและแก้ปัญหา ซึ่งหมายถึงภารกิจสูงสุดอยู่ที่ความอยู่รอดเฉพาะหน้า ส่วนผู้หญิงมีหน้าที่ดูแลบ้านและสร้างหลักประกันการอยู่รอดของลูก ๆ แม้แต่ในยุคนี้ ผลศึกษาหลายชิ้นระบุว่า ผู้ชาย 70-80% ยังบอกว่าส่วนสำคัญที่สุดในชีวิตคืองาน และผู้หญิงในจำนวนเท่า ๆ กันยกให้ครอบครัวมีความสำคัญที่สุด
ผลลัพธ์คือ ถ้าผู้หญิงไม่มีความสุขกับชีวิตคู่จะไม่มีสมาธิกับงาน แต่ถ้าผู้ชายไม่มีความสุขกับงานจะปล่อยปละละเลยชีวิตคู่
เมื่อเครียดหรือรู้สึกกดดัน ผู้หญิงจะมองว่าการได้พูดคุยกับสามีเป็นรางวัลอันมีค่า แต่ผู้ชายกลับรู้สึกว่าการกระทำแบบเดียวกันรบกวนกระบวนการแก้ปัญหา ผู้หญิงอยากคุยและให้สามีกอด แต่สิ่งที่ผู้ชายอยากทำมากที่สุดคือนอนดูฟุตบอล
สำหรับผู้หญิง สามีดูจะไม่ใส่ใจเลยสักนิด แต่สำหรับผู้ชาย ภรรยาช่างเซ้าซี้กวนใจหรือบางครั้งอวดรู้มากไปหน่อย
เมื่อรู้แบบนี้ สามี-ภรรยาควรหาทางสายกลางเพื่อประคับประคองชีวิตคู่ให้ราบรื่น
ทำไมผู้หญิงมีสัมผัสที่ 6
เมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว ผู้หญิงเคยถูกเผาทั้งเป็นเพราะมี 'อำนาจเหนือธรรมชาติ' ซึ่งหมายถึงความสามารถในการทำนายแนวโน้มความสัมพันธ์และความจริงที่ซ่อนเร้น
ในการทดลองหนึ่งพบว่า ภายในห้องที่มีสามี-ภรรยาอยู่ 50 คู่ ผู้หญิงใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่ โดยความสามารถนี้วิวัฒนาการมาจากหน้าที่การดูแลบ้านในอดีตกาล ทำให้ผู้หญิงสามารถฟันธงได้ว่าคู่ไหนรักกันดี คู่ไหนมีปัญหา และผู้หญิงคนไหนน่าคบหรือว่าต้องระวัง ขณะที่ผู้ชายกลับกวาดสายตาทั่วห้องเพื่อหาทางเข้า-ทางออก ซึ่งมาจากสัญชาติญาณในอดีตในการประเมินแนวโน้มการถูกโจมตีและทางหนีทีไล่ หลังจากนั้น จึงค่อยมองหาคนรู้จักหรือคนที่อาจเป็นศัตรู แล้วค่อยพินิจพิเคราะห์โครงสร้างห้องเพื่อหาจุดที่มีปัญหาและต้องการการซ่อมแซม
ทำไมผู้หญิงชอบสับสนซ้าย-ขวา
ความที่ใช้สมองทั้งสองด้านไปพร้อมกัน ผู้หญิงหลายคนจึงมีปัญหาเรื่องมือขวา-มือซ้าย
ในการศึกษาพบว่า ผู้หญิงราว 50% นึกไม่ออกว่ามือซ้ายหรือมือขวาถ้าไม่ได้เหลือบตาลงมอง ทว่า ผู้ชายที่ใช้สมองทีละซีกตอบโจทย์นี้อย่างง่ายดาย
ด้วยเหตุนี้ ผู้หญิงทั่วโลกจึงมักถูกเพศตรงข้ามบ่น เพราะชอบบอกให้เลี้ยวขวาทั้งที่จริง ๆ แล้วหมายถึงเลี้ยวซ้าย
ทำไมผู้ชายไม่ชอบถามทาง
เรื่องนี้เกี่ยวกับทัศนคติที่ฝังรากมาแต่ดึกดำบรรพ์ที่ผู้ชายต้องออกสำรวจภูมิประเทศรอบ ๆ ถ้ำเพื่อจะได้กลับบ้านถูกเวลาออกไปล่าสัตว์หาอาหารมาเลี้ยงครอบครัว
ลูกเมียต่างหิวโหยแต่เชื่อมั่นว่าพ่อบ้านจะปฏิบัติภารกิจสำเร็จเหมือนเช่นทุกครั้ง ดังนั้นผู้ชายจึงไม่สามารถแสดงอาการกลัวออกมาให้ครอบครัวเห็น และมองว่าการขอความช่วยเหลือหมายความว่าการปฏิบัติภารกิจล้มเหลว
ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่รู้หรอกว่าเวลาผู้ชายขับรถออกไปนอกบ้านคนเดียว เขาอาจจอดถามทาง แต่การทำแบบนี้ต่อหน้าผู้หญิง จะทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองล้มเหลว
ด้วยเหตุนี้ ผู้หญิงจึงต้องระวังไม่ทำให้ผู้ชายรู้สึกผิดเวลาคุยปัญหากัน ขณะเดียวกัน ผู้ชายก็จะต้องเข้าใจว่าผู้หญิงไม่ได้มีเจตนากล่าวโทษ แต่ต้องการช่วยแบ่งเบา จึงไม่ควรเก็บปัญหาไว้หนักอกคนเดียว
จาก: pas passanan (p_passanan@yahoo.com)
FW: วาสนา
มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน
เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน
ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด
เมื่อได้ทราบข่าว เขาทั้งงงและเสียใจมาก ร้องไห้ไม่กินไม่นอน ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ
เวลาผ่านไป ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา
เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า เป็นพระ จึงบอกว่า ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า
หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต
ในบ้านมีคนป่วยใช่มั๊ย อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย ไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่าอยากเข้ามา ก็เข้ามา!
เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่า ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง สีหน้าซีดเซียว ร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น
หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ ชายคนนั้น นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี จึงกล่าวว่า โทรมมากเลยนะ ชายคนนั้นไม่สนใจ หลวงตาบอกว่าไม่เชื่อ ลองมองที่กระจกสิ ชายคนนั้นไม่สนใจ แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล
ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้นมองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น เขาพบว่า มีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา เขามองเห็นศพนั้น เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น แล้วเดินจากไป
พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ จึงเปิดออกดู เมื่อพบว่าเป็นศพ ด้วยใจสงสารจึงจะฝังให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆกอบทรายขึ้นมา เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น พอได้หลุมใหญ่พอสมควร จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป
จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้น
และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก เขาได้เห็นก็ตกใจ
พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2
แล้วก็ค่อยๆจางหายไป เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก
ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า ทีนี้เข้าใจรึยัง ศพนั้นคือคู่รักของโยม
ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ
ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ
จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน
เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา เด็กรับใช้ตกใจมาก
หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า โยมรอดแล้ว เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว
ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด
^_^ คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง , ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย
เมื่อมีวาสนา ไม่ต้องเรียกร้อง ถึงเวลาก็มาเจอกัน
เมื่อสิ้นวาสนา ก็ต้องจากกัน รั้งยังไงก็ไม่อยู่
ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้ คุณทำได้ทำดีต่อคนของคุณหรือยัง
เพราะถึงเวลาที่ต้องจากกัน ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำนาจล้นฟ้า ก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้
ทำดีต่อกันไว้ดีกว่า เพราะไม่มีใครรู้ว่า เราจะต้องจากกันเมื่อไหร่ ^_^
Janja saengngern-on (surapa1951@hotmail.com)
FW: หมอจีนรู้อะไรจากประจำเดือน
หมอจีนรู้อะไรจากประจำเดือน
ผมชอบคนไข้ผู้หญิงครับ เอิ่ม นี่ไม่ได้ตั้งใจจะมาเป็นหมอโรคจิตหรอกนะครับ โปรดอย่าพึ่งเข้าใจผิด ที่พูดเช่นนี้เพราะนอกจากผมจะมีความชื่นชอบในตัวสาวๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สาเหตุหลักจริงๆแล้วคือ เพราะร่างกายของผู้หญิงมีข้อมูลที่ช่วยให้ผมรับรู้การทำงานของตับไตไส้พุง ได้ชัดเจนกว่าผู้ชาย ซึ่งจะง่ายต่อการวินิจฉัยและรักษาอย่างมาก และนั่นก็คือ ประจำเดือน นี่เองครับ คุณอาจจะไม่เชื่อเลยก็ได้ว่าผมรู้ข้อมูลของร่างกายคุณมากมายแค่ไหนผ่านประจำเดือนของคุณผู้หญิง วันนี้เลยจะมาเล่าให้ฟังกันครับว่าทำไมหมอจีนถึงชอบถามถึงประจำเดือน แถมถามละเอียดลงลึกถึงขั้นสี ปริมาณ ก้อนเลือด รอบเดือนช้าเร็ว ทั้งๆที่ชั้นไม่ได้มาหาหมอเพราะเรื่องนี้ซักหน่อย ก็ขอวอนอย่าพึ่งเข้าใจผิดคิดว่าหมอลามกนะครับ ผู้หญิงมีความสัมพันธ์กับเลือดมาก เพราะต่างก็เป็นธาตุหยิน ( ธาตุเย็น) ทั้งคู่
ขณะเดียวกันพื้นฐานร่างกายของผู้หญิงก็มีความสัมพันธ์อวัยวะตับในทางแพทย์จีนอย่างแน่นแฟ้นเพราะ
1. ตับเป็นอวัยวะที่กักเก็บเลือดไว้ ก่อนจะปล่อยไปให้อวัยวะอื่นๆใช้งาน
2. เส้นลมปราณตับเดินผ่านอวัยวะเพศ และหน้าอก
3. ตับเป็นตัวควบคุมการเดินของลมปราณในร่างกายให้คล่องตัว รวมไปถึงอารมณ์ต่างๆด้วย
เมื่อทำความเข้าใจตรงนี้ได้แล้วต่อไปก็จะอ่านเข้าใจได้ง่ายกว่าเดิมครับ
คราวนี้เรามาไล่ดูกันครับว่า สี ปริมาณ ก้อนเลือด รอบเดือนช้าเร็ว ทำให้หมอจีนรู้อะไรบ้าง
สีของเลือดประจำเดือน
สีแดงเข้ม
มักจะเป็นคนที่ร้อนในครับ คิดสภาพว่าไฟมันร้อนเลือดเลยสีเข้ม เหนียวข้น คุณมักจะหิวน้ำ ท้องผูก หงุดหงิดง่าย
สีแดงซีด
คือคนที่ขาดเลือดครับ ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นโรคโลหิตจางนะครับ ไปตรวจปริมาณเม็ดเลือดอาจจะยังปกติไม่มีปัญหา คุณมักจะเป็นคนไม่มีแรงครับ หน้าซีด เล็บซีด ปากซีด เวียนศีรษะ หลงลืมง่าย นอนไม่หลับ
สีแดงคล้ำ
คือคนที่มีเลือดคั่งอยู่ข้างในครับ ส่วนใหญ่ประจำเดือนสีนี้มักจะมีลิ่มเลือดออกมาด้วยเสมอ สีประจำเดือนแบบนี้เกิดได้หลายสาเหตุครับ คุณอาจจะเป็นคนขี้หนาว หรืออยู่ในห้องเย็นๆเป็นประจำ หรืออาจจะเป็นคนที่เครียดมาก เครียดบ่อย
ปริมาณของเลือดประจำเดือน
ควรจะดูประกอบกับสีด้วยจะบอกข้อมูลได้ชัดเจนขึ้นไปอีกครับ
ประจำเดือนมาน้อย + สีแดงซีด เลือดน้อยจนไม่มีเลือดจะให้เสียแล้ว มักมีอาการปวดท้องประจำเดือนด้วย
ประจำเดือนมาน้อย + สีแดงคล้ำ เลือดคั่งอุดทางเดินประจำเดือน ทำให้เหมือนประจำเดือนมาน้อย แต่ที่จริงแล้วคั่งอยู่ข้างในออกไม่ได้ต่างหาก รายการนี้ก็มักปวดท้องประจำเดือนด้วยเช่นกัน แต่ถ้าเกิดประจำเดือนมาคล่อง หรือก้อนเลือดหลุดออกมาแล้วก็จะหายปวด
ประจำเดือนมามาก + สีแดงเข้ม เกิดจากความร้อนครับ ที่มามากก็เพราะความร้อนมันขับดันให้เลือดเดินไว เดินเยอะ
ประจำเดือนมามาก + สีแดงซีด อันนี้เป็นเพราะร่างกายขาดลมปราณครับ ลมปราณเป็นตัวควบคุม นำทางให้เลือดเดินไปในทางที่มันควรจะไป เมื่อลมปราณพร่องแล้ว เลือดก็ไม่มีตัวควบคุม ไหลตามใจฉัน แล้วเมื่อเลือดไหลออกไปเรื่อยๆ ลมปราณก็จะยิ่งพร่องเพราะขาดเลือดหล่อเลี้ยง สุดท้ายเกิดเป็นวงจรอุบาทว์แย่ลงไปเรื่อยๆ คุณจะมีอาการอ่อนเพลียง่าย ไม่มีแรง วิงเวียนศีรษะ ไม่อยากอาหาร
ประจำเดือนมามาก + สีแดงคล้ำ ก็คือมีเลือดคั่งอยู่ครับ
ประจำเดือนกระปิดกระปอยมาไม่หยุด แบ่งได้สองกรณีคือ ลมปราณพร่อง สีของเลือดจะซีด อีกประเภทคือเลือดร้อน สีของเลือดจะสดครับ
ก้อนเลือดและลิ่มเลือด
บางคนประจำเดือนมาทีเป็นก้อนๆครับ มักมีอาการปวดประจำเดือนร่วมด้วย บางคนเหมือนมีเศษเนื้อหลุดออกมาด้วยเลย พอก้อนเลือดหรือเศษเนื้อหลุดออกมาแล้วประจำเดือนมักจะหายปวดครับ ก้อนเลือดและลิ่มเลือดก็คือเลือดคั่ง เลือดเดินไม่สะดวก เกิดได้หลายสาเหตุ แต่หลักๆมีอยู่สองอย่างคือ อารมณ์เสีย และ พิษเย็นครับ
รอบเดือนไม่ปกติ
รอบเดือนมาก่อนเวลา มีได้หลายสาเหตุครับ โดยมากแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ เลือดร้อน หรือ ลมปราณพร่อง อาการดูได้จากข้างบน
รอบเดือนชอบมาหลังเวลา เพราะเลือดคั่ง พิษเย็น เลือดน้อยสามสาเหตุหลักๆ สองอันแรกเพราะมันทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี อันหลังเพราะไม่มีเลือดให้ไหลเวียน
การปวดประจำเดือน
การปวดประจำเดือนเป็นอะไรที่ผมสงสารผู้หญิงอย่างสุดซึ้งจริงๆครับ เพราะมันเป็นความปวดที่ทรมาณและน่าหวาดกลัว รู้ทั้งรู้ว่ามันต้องเจ็บทุกเดือนแต่ส่วนใหญ่ก็มักแก้ไขหลีกเลี่ยงอะไรไม่ได้ ไม่เหมือนโดนต่อยโดนตบที่ยังวิ่งหนีได้ การปวดประจำเดือนแยกคร่าวๆออกมาได้ดังนี้ครับ ปวดช่วงวันแรกๆ พอมาเยอะขึ้นก็หายปวด มักมีอาการท้องแน่นๆ คัดหน้าอกควบคู่ไปด้วย ให้ถามตัวเองว่าคุณเป็นคนอารมณ์เสียง่ายหรือเปล่า อ๊ะๆ อย่าหลอกตัวเองนะครับ อาการมันฟ้องอยู่ครับ
จากที่บอกไปข้างต้นว่าตับเป็นตัวควบคุมเลือดและลมปราณพออารมณ์ไม่ดีลมปราณก็ จะเดินไม่คล่อง ลมปราณไม่เดิน เลือดก็เลยไม่เดินเพราะเหงาขาดเพื่อน อยู่ด้วยกันสองคนอบอุ่นดี แต่คนที่ไม่ดีคือตัวเราเองครับที่ต้องทนปวดประจำเดือนกันต่อไป ที่รพ.จีนทุกปีเวลาเอนทรานซ์จะมีนักเรียนหญิงมาหาหมอเรื่องประจำเดือนตลอด เลยครับ เครียดกันซะ ปวดหลังจากประจำเดือนจะหมดหรือหมดแล้ว มักจะไม่ปวดรุนแรงมาก จะมีอาการอ่อนเพลียควบคู่ อันนี้เกิดจากเลือดน้อยครับ อารมณ์เดียวกับหัวใจขาดเลือดแล้วจะเจ็บหน้าอก
การปวดประจำเดือนกับความเย็น ถ้าคุณปกติเป็นคนชอบกินน้ำเย็น น้ำแข็ง ไอติมนี่ของโปรด รักการว่ายน้ำ ใส่กระโปรงเปิดเข่าทำงานในห้องแอร์เย็นเจี๊ยบ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่จะทำให้คุณต้องทนทรมาณกับการปวดประจำเดือนหากคุณ ยังไม่รีบแก้ไข นึกภาพง่ายๆหากเอาน้ำไปแช่ช่องฟรีซ น้ำก็จะแข็ง ไม่เคลื่อนไหว ประจำเดือนก็เหมือนกันครับ เลือดไหลเวียนไม่ดีก็ปวดเอาสิครับ เพราะอย่างนี้แหละครับนักกีฬาว่ายน้ำจึงมักมีอาการปวดประจำเดือน
การลดความอ้วนกับประจำเดือน
วันก่อนมีคนไข้คนนึงเป็นคนจีนสัญชาติแอฟริกันครับ คือหน้าตาเป็นคนจีนนะแหละ แต่ร่างกายเหมือนคนแอฟริกัน ผอมจนเห็นกระดูกอะครับ เธอมาหาหมอด้วยโรคประจำเดือนไม่มา ขอถามเพื่อนๆว่าพอจะเดาสาเหตุที่ประจำเดือนเขาไม่มาได้ไหมครับ ?
ถู๊กกกกกกกกกก หรือเปล่า
คนแบบเธอนั้นเราสามารถเรียกได้ว่า แกว่งเท้าหาเสี้ยนครับ อยู่ดีไม่ว่าดี ลดความอ้วนซะ พวกลดความอ้วนมากๆเนี่ยจะมีความคิดในใจอย่างนึงว่า ' ฉันยังอ้วนอยู่' แม้ว่าจะหุ่นได้รูปแล้วก็ตาม แรกๆก็ลดความอ้วนอยู่หรอก แต่พอลดเกินขีดจำกัด มันพาลไม่อยากอาหารเอาแล้วครับ ระบบการย่อยมันเละไปหมดแล้ว พอถึงตอนนี้จะยัดกินให้อ้วนเหมือนเดิมก็ไม่ได้แล้ว เพราะ 'ท้องไม่รับ' หุๆ แล้วพอลดความอ้วนมากๆเข้าจะเอาสารอาหารที่ไหนมาสร้างเลือดละครับ คนประเภทนี้ถ้าอยากให้ประจำเดือนมาปกติก็หันมากินข้าวเหอะครับ ไม่งั้นวันหลังจะ ' ไม่ได้ท้อง' นะครับ
' คือว่าเราเคยเครียดมากๆ เลยอะค่ะเป็นเวลาติดต่อกัน บางทีปวดหัวมาก ร้องไห้จนเกร็งหน้าท้องหายใจไม่ออกเลย แล้วประจำเดือนก็หายไป พอมันมาอีกที มันออกเป็น ก้อนเลือดสีดำ ๆ เลยอะค่ะ'
นี่เป็นคำพูดที่เพื่อนผมคนนึงบอกเล่า ขออนุญาตนำมาใช้เพื่อการศึกษานะครับ เคสนี้บอกอะไรผมได้บ้าง หลังจากผมฟังคำบอกเล่านี้ ผมจะรู้ว่าคนไข้รายนี้
1. เธอเป็นคนที่เครียดง่าย อารมณ์แปรปรวนบ่อย เวลารักษาต้องเน้นที่ลมปราณตับ
2. การผิดปกติของประจำเดือนเกิดจากลมปราณติดขัด เลือดไม่เดิน เกิดเป็นเลือดคั่ง อุดตันทางเดินประจำเดือน ประจำเดือนเลยหายไป เนื่องจากเดือนที่แล้วประจำเดือนออกไม่หมด เป็นเลือดคั่งเก็บอยู่ข้างใน พอถัดมาอีกเดือนจึงเป็นก้อนเลือด สีคล้ำ
3. ควรสอบถามต่อไปว่าชอบกินของเย็นๆ หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เย็นๆหรือไม่ เพราะนั่นจะทำให้ประจำเดือนยิ่งแย่
4. เธอน่าจะไม่ค่อยอยากอาหาร เวลารักษาควรให้ยาจำพวกช่วยย่อยและบำรุงกระเพาะด้วย
5. เธออาจจะมีอาการเจ็บสีข้าง คัดหน้าอกเวลาประจำเดือนมาโดยเฉพาะวันแรกๆ สาเหตุเกิดจากลมปราณตับติดขัด
6. นอกจากการรักษาโดยการจ่ายยาแล้ว ยังควรจะพูดจา คุยกับคนไข้มากๆ ให้เขารู้สึกสบายใจ เพราะต้นเหตุของอาการนี้เริ่มมาจากใจเป็นอันดับแรก
เนี่ยแหละครับ แค่ถามประจำเดือนคำถามเดียวผมก็รู้ได้มากขนาดนี้แล้ว โดยยังไม่ทันถามอาการอื่นๆเลย แล้วพอไล่ถามรายละเอียดว่าเป็นอย่างที่ผมคิดไหมคนไข้ก็จะตาลุกวาวจ้องผมกลับ เสมือนผมเป็นหมอดู ไม่ใช่หมอจีนแล้ว เพราะว่าแม่นเหลือเกิน
ข้อควรปฎิบัติเกี่ยวกับประจำเดือน
1. อย่าเครียด ลมปราณเดินไม่สะดวกผิดปกติไม่รู้นะเออ
2. อย่ากินของเย็นให้มากนัก
3. ใส่กางเกงไปทำงานเถอะ การที่หัวเข่าตากแอร์เรื่อยๆทำให้ปวดประจำเดือน
wan (wan_uc@hotmail.com)
แสดงความคิดเห็น